ข้อสอบ NETSAT Chemistry เตรียมพร้อมเข้า ม.ขอนแก่น พร้อมเฉลย

1. จากการทดลองทั้งหมด 5 ครั้ง โดยนาย A, B, C และ D จากตารางบันทึกผล ผลการทดลองใครมีความแม่นยำสูง (accuracy), ค่าจริงคือ 24

A

B

C

D

2. พิจารณาภาพการกลั่นน้ำทะเล ในระหว่างที่ของเหลวที่ได้จากการกลั่นไหลลงในภาชนะที่รองรับ ตำแหน่งใดในภาพที่อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส

A

C

D

A และ B

3. ข้อใดต่อไปนี้แสดงการบันทึกปริมาตรที่วัดได้และระบุเลขนัยสำคัญได้ถูกต้อง

วัดปริมาตรได้ 10.0 มีเลขนัยสำคัญ 3 ตำแหน่ง

วัดปริมาตรได้ 28 มีเลขนัยสำคัญ 2 ตำแหน่ง

วัดปริมาตรได้ 30 มีเลขนัยสำคัญ 2 ตำแหน่ง

วัดปริมาตรได้ 18.0 มีเลขนัยสำคัญ 3 ตำแหน่ง

4. หากในห้องทดลองมีสารเคมีและสารละลายที่ความเข้มข้นต่าง ๆ (stock solution) ดังแสดงในภาพ ข้อใดต่อไปนี้เตรียมสารละลายตามข้อความที่ขีดเส้นใต้ได้ถูกต้องและมีความเหมาะสมที่สุด โดยแต่ละข้อมูลมีอุปกรณ์เครื่องแก้ว น้ำกลั่นและปริมาตรสารเพียงพอ

ในการเตรียมสารละลายกรด C ความเข้มข้น 3.5 โมลาร์ ปริมาตร 100 มิลลิลิตร ให้ตวงกรด C จากขวดที่มีความเข้มข้น 4.0 โมลาร์ มา 87.5 มิลลิลิตร เทใส่ในบีกเกอร์ จากนั้นเติมน้ํากลั่น 12.5 มิลลิลิตร ลงในบีกเกอร์ที่มีกรด C

ในการเตรียมสารละลาย D ความเข้มข้น 6.0 โมลาร์ ปริมาตร 200 มิลลิลิตร ให้ตวงสารละลาย D จากขวดที่มีความเข้มข้น 8.0 โมลาร์ มา 120 มิลลิลิตร เทใส่ในปี เกอร์ และเติมสารละลาย D จากขวดที่มีความเข้มข้น 4.0 โมลาร์ มา 80 มิลลิลิตร ผสมกัน

ในการเตรียมสารละลาย A ในน้ำ ความเข้มข้น 3.0 โมลาร์ ปริมาตร 20 มิลลิลิตร ชั่งสาร A มา 60 กรัม ใส่ในขวดวัดปริมาตรขนาด 1,000 มิลลิลิตร จากนั้นเติมน้ำกลั่นให้ ครบตามขวดวัดปริมาตรและเขย่าให้เข้ากัน แล้วจึงใช้กระบอกตวง ดวงมา 20 มิลลิลิตร จะได้สารที่มีความเข้มข้นและปริมาตรตามที่ต้องการ

ในการเตรียมสารละลาย B ในน้ำ ความเข้มข้น 3.0 โมลาร์ ปริมาตร 20 มิลลิลิตร ชั่งสาร B มา 2.4 กรัม ใส่ในขวดวัดปริมาตรขนาด 25 มิลลิลิตร จากนั้นเติมน้ำกลั่นให้ ครบตามขวดวัดปริมาตรและเขย่าให้เข้ากัน แล้วจึงใช้กระบอกตวง ดวงมา 20 มิลลิลิตร จะได้สารที่มีความเข้มข้นและปริมาตรตามที่ต้องการ

5. จากภาพด้านล่างที่ปรากฏ ข้อใดอธิบายระดับพลังงาน n = 1 ซึ่งมีค่าติดลบได้ถูกต้อง

พลังงานของอิเล็กตรอนมีค่ามากที่สุด

อิเล็กตรอนเป็นอนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าเป็นลบ

อิเล็กตรอนถูกดึงดูดให้อยู่ใกล้กับนิวเคลียสด้วยแรงไฟฟ้า

พลังงานที่ปลดปล่อยออกมาเกิดขึ้นในระหว่างกระบวนการคายพลังงาน

6. นำสาร A และสาร B มาละลายน้ำ พบว่าได้เป็นสารละลายที่เป็นเนื้อเดียวกัน โดยสาร A และ สาร B เป็นสารที่ระเหยได้ยาก และไม่แตกตัว โดยสาร A เป็นสารที่มีจุดหลอมเหลวต่ำกว่าสาร B จากข้อมูลดังกล่าวจงทำนายผลการทดลอง ค่า X และ Y ในตาราง

ไม่สามารถระบุได้ว่า X และ Y มีค่าเท่าใด แต่ค่า X มีค่ามากกว่า Y

ไม่สามารถระบุได้ว่า X และ Y มีค่าเท่าใด แต่ค่า X มีค่าน้อยกว่า Y

ค่า X = 201.24 และค่า Y = 51.175

ค่า X = 102.35 และค่า Y = 100.62

7. การทดสอบทางเคมีเพื่อตรวจหาไอออนของโลหะในสารละลาย ผู้ทำการทดลองคนหนึ่งได้เติม สารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ลงในสารตัวอย่าง (บีกเกอร์ 1-6) แล้วสังเกตตะกอน (ของแข็ง) ที่เกิดขึ้น จากนั้นบันทึกผล การทดสอบดังตาราง

I.

II.

III

ถูกทุกข้อ

8. พิจารณาข้อมูลต่อไปนี้แล้วตอบคำถาม ในแต่ละการทดลองพบว่ามีฟองแก๊สเกิดขึ้น ผู้ทำการทดลองจึงทดสอบด้วยกระดาษลิตมัสสีแดงและน้ำเงิน
ข้อใดแสดงผลการเปลี่ยนแปลงสีของกระดาษลิตมัสที่สอดคล้องกับการทดลองทั้งสอง

9. ข้อใดถูกต้อง

10. แผนภาพในข้อใดแสดงพันธะไฮโดเจน (เส้นประ) ระหว่างโมเลกุลของ CH₃ NH₂ ได้ถูกต้อง

11. ปฏิกิริยาสมการ
จากข้อมูลที่กำหนดให้ ข้อใดต่อไปนี้แสดงแบบจำลองได้ถูกต้อง

12. ข้อใดถูกต้องเกี่ยวกับสมบัติของแก๊ส

13. แผนภาพในข้อใดแสดงผลิตภัณฑ์และสมการเคมีได้อย่างถูกต้อง

14. พิจารณาข้อมูลต่อไปนี้แล้วตอบคำถาม
ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับสมมติฐานของการทดลองข้างต้น

การเติมสารละลายโพแทสเซียมไอโอไดด์และน้ำมีผลต่ออัตราการสลายตัวของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์

ปฏิกิริยาการสลายตัวของไฮโดรเจนไฮดรอกไซด์จะเกิดขึ้นได้เร็วเมื่อเติมสารละลายโพแทสเซียมไอโอไดด์

สารละลายโพแทสเซียมไอโอไดด์ช่วยทำให้อัตราการสลายตัวของไฮโดรเจนเปอร์ออกไชด์ช้าลง

สารละลายโพแทสเซียมไอโอไดด์เข้าไปมีส่วนร่วมในปฏิกิริยาและสิ้นสุดปฏิกิริยาจะได้โพแทสเซียมอโอไดด์กลับมาเหมือนเดิม

15. พิจารณาข้อมูลต่อไปนี้แล้วตอบคำถาม

กลไกการเกิดปฏิกิริยาใดสอดคล้องกับ (A) สมการเคมีและ (B) กราฟพลังงานและการดำเนินไปของปฏิกิริยาตามลำดับ

กลไกการเกิดปฏิกิริยา C กลไกการเกิดปฏิกิริยา C

กลไกการเกิดปฏิกิริยา D กลไกการเกิดปฏิกิริยา C

ทั้งกลไกการเกิดปฏิกิริยา C และ D กลไกการเกิดปฏิกิริยา C

ทั้งกลไกการเกิดปฏิกิริยา C และ D กลไกการเกิดปฏิกิริยา D

16. พิจารณากลไกของปฏิกิริยา NO₂(g) + CO(g)→NO(g) + CO₂(g)
ขั้นที่ 1 NO₂(g)→ NO₃(g)+ NO(g)
ขั้นที่ 2 NO₂(g)+ CO(g)→ NO₂(g) + CO₂(g)

ข้อใดแสดงกฎอัตราที่เป็นไปได้ (possible rate raw) สำหรับปฏิกิริยาข้างต้น

r = k[NO₃][NO]

r = k[NO₂][CO]

r = k[NO₃][CO₂]

r = k[NO₂]²

17. ปฏิกิริยาเคมีสมการ

N₂O₄](g) 2NO₂(g)
แก๊สไม่มีสี แก๊สสีน้ำตาลแดง

เมื่อให้ปฏิกิริยาดังกล่าวดำเนินไปสู่สภาวะสมดุล ข้อใดถูกต้อง

18. จากสมการเคมีและแบบจำลองโมเลกุลดังภาพ
แบบจำลองโมเลกุลที่อุณหภูมิต่างกันข้อใดต่อไปนี้ถูกต้อง

19. จากภาพแสดงสีที่สังเกตเห็นในหลอดทดลอง หากต้องการสารละลายมีสีแดงเพิ่มมากขึ้นต้องเติมสารใดต่อไปนี้

เติม Fe(NO₃)₃ หรือ NaSCN

เติม H₂C₂O₄ หรือ NaSCN

เติม H₂C₂O₄ หรือ Fe(NO₃)₃

เติมได้ทั้ง Fe(NO₃)₃ หรือ NaSCN หรือ H₂C₂O₄

20. สารละลาย A, B และ C มีความเข้มข้นดังนี้

การทดสอบ R เป็นผลการทดสอบของสารละลาย B

การทดสอบ R เป็นผลการทดสอบของสารละลาย C

การทดสอบ Q เป็นผลการทดสอบของสารละลาย A

การทดสอบ S เป็นผลการทดสอบของสารละลาย B

21. จากข้อมูลข้อ 20 ถ้าหาก T เป็นผลการทดสอบของสารละลาย D ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้อง

สารละลาย D มีความเป็นกลาง

สารละลาย D มีความเป็นเบสแก่

ถ้านำกระดาษลิตมัสสีแดงมาทดสอบ กระดาษลิตมัสต้องไม่เปลี่ยนสี

สารละลาย D มีค่า pH ใกล้เคียงกับน้ำมะนาว

22. จากภาพและสมการข้อใดต่อไปนี้ถูกต้อง

A มีโอกาสเป็นโลหะสังกะสีและ B มีโอกาสเป็นโลหะทองแดง

เมื่อต่อโวลมิเตอร์เข็มจะเบนไปทางซ้าย

โลหะฝั่งขวาทำหน้าที่เป็นแคโทดและโลหะฝั่งซ้ายทำหน้าที่เป็นแอโนด

อิเล็กตรอนจะเคลื่อนที่จากโลหะฝั่งซ้ายผ่านหลอดไฟไปยังโลหะฝั่งขวา

23. จากข้อ 22 ข้อใดอธิบายทางวิทยาศาสตร์และกล่าวถึงประจักษ์พยาน (evidence) ได้ถูกต้องสมบูรณ์ที่สุด

จากการทดลองกล่าวได้ว่า “เกิดพลังงานไฟฟ้า” เนื่องจากพบว่าหลอดไฟสว่าง เพราะโลหะฝั่งซ้ายมีค่า E° มากกว่าโลหะฝั่งขวา และเกิดปฏิกิริยาเคมีไฟฟ้าและมีการถ่ายโอนอิเล็กตรอนระหว่างสาร

จากการทดลองกล่าวได้ว่า “หลอดไฟสว่าง” เนื่องจากพบหลักฐานว่ามีการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนเกิดขึ้นเมื่อเชื่อมต่อสะพานเกลือ ทำให้ค่า E° ของโลหะทั้งสองฝั่งมีค่า แตกต่างกันจึงเกิดพลังงานไฟฟ้าสูง

จากการทดลองกล่าวได้ว่า “เกิดปฏิกิริยาไฟฟ้าเคมี” เนื่องจากพบว่ามีอิเล็กตรอนมีการเคลื่อนที่จากโลหะฝั่งซ้ายไปโลหะฝั่งขวาและมีสารละลายอิเล็กโทรไลต์ A²⁺ทางฝั่งซ้ายและ B²⁺ , SO₄^2- ทางฝั่งขวา จึงทำให้เกิดปฏิกิริยาไฟฟ้าเคมี

จากการทดลองกล่าวได้ว่า “การทดลองไฟฟ้าเคมีตรงตามสมมติฐาน” เนื่องจากพบว่ามีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านจากขั้วโลหะเป็นปริมาณสูงมาก สาเหตุเนื่องจาก หลอดไฟสว่างจ้า และมีการเตรียมอุปกรณ์สารละลายอิเล็กโทรไลต์ สะพานเกลือและโลหะมาเชื่อมต่อกันได้ครบถ้วน

24. จากการทดลองสารประกอบไฮโดรคาร์บอน X, Y และ Z ผลการทดลองแสดงดังนี้

ผลการทดลองที่ I เมื่อนำสาร X, Y และ Z มาเผา พบว่าสาร Y มีเขม่าสีดำมากที่สุด
ผลการทดลองที่ II เมื่อนําเฉพาะสาร X มาเผาไฟ พบว่ามีแก๊ส CO เกิดขึ้น
ผลการทดลองที่ III เมื่อหยด 〖"Br" 〗_"2" /〖"CCl " 〗_"4" ใส่หลอดทดลองที่มีสาร Z ในที่สว่าง แล้วนำกระดาษลิตมัสมายังปากหลอดพบว่ากระดาษลิตมัสเปลี่ยนจากสีน้ำเงินเป็นสีแดง

จากผลการทดลองดังกล่าว ข้อใดต่อไปนี้ไม่ถูกต้อง

สาร Z หากแบ่งตามประเภทของพันธะเป็นสารประเภทเดียวกับเฮกเซน

สาร Z สามารถฟอก KMnO₄

สาร Y หากแบ่งตามประเภทของพันธะเป็นสารประเภทเดียวกับ

เมื่อหยดสารละลายโบรมีน ใส่หลอดทดลองที่มีสาร X ในที่ที่มีแสงพบว่าสีของ สารละลายเปลี่ยนเป็นไม่มีสี

25. กำหนดให้ข้อมูลดังแสดงต่อไปนี้

จากข้อมูลดังกล่าว ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้อง

กระบวนการผลิตพอลิเอทิลีน
กระบวนการ A ถ้าหากต้องการพอลิเมอร์ที่มีโครงสร้างแบบกิ่ง ต้องสังเคราะห์โดยใช้อุณหภูมิต่ำความดันต่ำและต้องเติมตัวเร่งปฏิกิริยา
กระบวนการ B ถ้าหากต้องการพอลิเมอร์ที่มีโครงสร้างแบบเส้น ต้องสังเคราะห์โดยใช้อุณหภูมิสูง ความดันสูงเมื่อนำพอลิเมอร์ที่สังเคราะห์ได้มาทำการทดสอบได้ผลดังแสดงในตาราง

หากต้องการพอลิเอทิลีนที่มีความเหนียวและแข็งแรงมากที่สุดให้สังเคราะห์ด้วยกระบวนการ A จะทำให้ได้พอลิเมอร์ที่มีคุณสมบัติแบบ การทดสอบ I

หากต้องการผลิตขวดพลาสติกขุ่น ในกระบวนการสังเคราะห์จะต้องใช้อุณหภูมิต่ำความดันต่ำและต้องเติมตัวเร่งปฏิกิริยาเคมี

หากต้องการผลิตฝาขวด ต้องสังเคราะห์ด้วย กระบวนการ A เพื่อให้ได้พอลิเมอร์ที่มีความหนาแน่น 0.93-0.97 กรัม/ลบ.ซม.

การทดสอบ II เป็นผลการทดสอบของพอลิเอทิลีนที่ผ่านกระบวนการสังเคราะห์ด้วยกระบวนการ B เพราะได้พอลิเมอร์ที่มีความหนาแน่นน้อย ซึ่งสอดคล้องกับผล การทดสอบ II ความหนาแน่นน้อยกว่า ผลการทดสอบ I