MENU การสอบ TBAT

TBAT คืออะไร?

คือ แบบทดสอบทางวิทยาศาสตร์ สำหรับผู้ที่ต้องการเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี หลักสูตรนานาชาติ คณะแพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ เภสัชศาสตร์ สัตวแพทยศาสตร์ และสหเวชศาสตร์ ออกสอบโดยศูนย์ทดสอบทางวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

จุดประสงค์ของข้อสอบ TBAT

สำหรับใช้คะแนนสอบยื่นสมัครเรียนในระดับปริญญาตรี หลักสูตรนานาชาติ คณะแพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ เภสัชศาสตร์ สัตวแพทยศาสตร์ และสหเวชศาสตร์ ทั้งในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับเกณฑ์การยื่นของแต่ละมหาวิทยาลัย

ใครที่ต้องสอบ TBAT และทำไมถึงสำคัญ?

ผู้ที่ต้องสอบ TBAT นั้น ได้แก่ ผู้ที่ต้องการสมัครเรียนในระดับปริญญาตรี หลักสูตรนานาชาติ/หลักสูตรภาษาอังกฤษของคณะแพทยศาสตร์ และคณะทางด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพอื่น ๆ ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ส่วนหลักสูตรภาคไทย หรือคณะต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ต้องรอติดตามประกาศการรับสมัครอีกครั้งว่าจะมีการกำหนดให้ใช้คะแนนนี้ด้วยหรือไม่ ดังนั้น ข้อสอบ TBAT จึงมีความสำคัญโดยเฉพาะน้อง ๆ ที่ต้องการเรียนต่อทางด้านนี้ เนื่องจากต้องใช้ในการยื่นสมัครเรียนนั่นเอง

รูปแบบและโครงสร้างของข้อสอบ TBAT

รูปแบบคำถามในข้อสอบ TBAT

ข้อสอบ TBAT มีลักษณะคำถามแบบปรนัย โดยผู้เข้าสอบจะต้องเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดจากตัวเลือกที่กำหนดให้ 4 ตัวเลือก ทั้งนี้ ผู้เข้าสอบจะไม่สามารถ ย้อนกลับไปทำข้อสอบในพาร์ทก่อนหน้าได้ และไม่ได้รับอนุญาตให้นำเครื่องคิดเลขหรืออุปกรณ์อื่นๆเข้าห้องสอบ

จำนวนข้อสอบ TBAT และเวลาที่ใช้สอบ TBAT

การสอบแบ่งออกเป็น 3 พาร์ท มีทั้งหมด 140 ข้อ โดยผู้เข้าสอบมีเวลาทำข้อสอบทั้งหมด 3 ชั่วโมง ดังนี้

  • พาร์ท 1: ฟิสิกส์ จำนวน 30 ข้อ ใช้เวลา 60 นาที
  • พาร์ท 2: เคมี จำนวน 55 ข้อ ใช้เวลา 60 นาที
  • พาร์ท 3: ชีววิทยา จำนวน 55 ข้อ ใช้เวลา 60 นาที

TBAT สอบอะไรบ้าง

การสอบแบ่งออกเป็น 3 พาร์ท โดยแต่ละพาร์ทมีเรื่องที่ออกสอบ ดังนี้

  • ฟิสิกส์ (Physics) จะเน้นเนื้อหาเกี่ยวกับ kinematics and forces, Energy, Vibrations and waves, Magnetism, Electromagnetic waves, Atomic structure และ Electricity
  • เคมี (Chemisrey) จะเน้นเนื้อหาเกี่ยวกับ Laboratory and safety Skill, Atomic structure,properties of elements and compounds, Bonding and intermolecular, Forces, Mole and chemical formula, Solutions, Stoichiometry, Gases, Reaction rates, Chemical equilibrium, Acids and bases, Electrochemistry, Organic chemistry, Polymer และ Thermochemistry
  • ชีววิทยา (Biology) จะเน้นเนื้อหาเกี่ยวกับ Biological diversity, Cell theory, Organ system, Disease and body defense, Plants และ Genetics and evolution

คะแนนสอบ TBAT

คะแนนเต็มของข้อสอบ TBAT

TBAT มีคะแนนเต็ม 2,400 คะแนน

เกณฑ์ขั้นต่ำคะแนน TBAT ที่ต้องทำได้

คะแนนสอบ TBAT นั้นไม่ได้มีกำหนดว่าคะแนนเท่าใดถือว่าสอบผ่าน แต่การจะรู้ได้ว่าควรจะต้องได้คะแนนเท่าไหร่นั้นให้ยึดตามเกณฑ์การรับสมัครของสาขาที่ต้องการยื่นว่ากำหนดเกณฑ์คะแนนขั้นต่ำไว้เท่าใด

วิธีการคิดคะแนน TBAT และการผ่านเกณฑ์

คะแนน TBAT ของแต่ละข้อนั้นจะเท่ากัน ไม่มีคะแนนลบ โดยข้อที่ตอบถูกจะได้คะแนน 1 คะแนน ส่วนข้อที่ตอบผิดจะไม่ได้คะแนน ซึ่งคะแนนสอบ TBAT นั้นไม่ได้มีกำหนดว่าคะแนนเท่าใดถือว่าสอบผ่าน แต่การจะรู้ได้ว่าควรจะต้องได้คะแนนเท่าไหร่นั้นให้ยึดตามเกณฑ์การรับสมัครของสาขาที่ต้องการยื่นว่ากำหนดเกณฑ์คะแนนขั้นต่ำไว้เท่าใด หากเราสอบได้ตามเกณฑ์นั้น ๆ ก็ถือว่าสามารถยื่นสมัครได้ ส่วนจะมีผลกับการผ่านการคัดเลือกจนเข้าเรียนต่อได้หรือไม่นั้นจะขึ้นอยู่กับการแข่งขันในปีนั้น ๆ ด้วย

การเตรียมตัวสำหรับข้อสอบ TBAT

เทคนิคการอ่านและทำความเข้าใจเนื้อหาข้อสอบ TBAT

แนะนำให้น้องๆ อ่านให้ครบทุกเรื่องที่มีแนวโน้มจะออกสอบ เพราะการมีพื้นฐานที่ดีและครอบคลุมจะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำโจทย์และได้คะแนนได้ดีขึ้น โดยเราสามารถจัดลำดับความสำคัญของเนื้อหาแต่ละบทได้ โดยอิงจากโครงสร้างข้อสอบว่าเรื่องใดออกเยอะเรื่องใดออกน้อยกว่า ดังรูป และอย่าลืมฝึกทำข้อสอบให้เยอะ ๆ เพื่อช่วยให้เกิดความคุ้นเคยกับข้อสอบ และควรจับเวลาเท่ากับการสอบจริง เพื่อดูว่าเราทำข้อสอบทันเวลาหรือไม่ด้วย

ข้อสอบ TBAT Physics
ข้อสอบ TBAT Chemistry
ข้อสอบ TBAT Biology

การจัดตารางเวลาเตรียมตัวสอบ TBAT

ข้อสอบ TBAT จะมีสอบเพียง 2 รอบ/ปี ในช่วงประมาณเดือนกรกฎาคมและเดือนตุลาคม ดังนั้น แนะนำให้น้อง ๆ ทะยอยอ่านหนังสือและฝึกทำข้อสอบล่วงหน้าได้เลย แนะนำให้ทำตารางเวลาแบบที่ไม่หักโหมจนเกินไป แต่ให้เน้นความสม่ำเสมอและต่อเนื่องจะดีกว่า

แนะนำหนังสือ TBAT

หนังสือสำหรับเตรียมสอบ TBAT หรือข้อสอบเก่าต่าง ๆ อาจจะยังไม่มีจำหน่ายตามร้านหนังสือมากนัก แต่น้อง ๆ สามารถเตรียมตัวอิงตามแนว ๆ CU-ATS ได้ หรือสามารถฝึกจากข้อสอบต่าง ๆ ที่ครอบคลุมในหัวข้อที่เหมือนกันก็ได้เช่นกัน

ตัวอย่างข้อสอบ TBAT

แนวข้อสอบ TBAT Physics

ข้อสอบจะเน้นการคำนวณ โดยเรื่องที่ออกสอบเยอะ คือ การเคลื่อนที่ไฟฟ้า, แม่เหล็ก และเรื่องแรงต่าง ๆ

แนวข้อสอบ TBAT Chemisrey

วิชานี้เน้นการคำนวณเช่นเดียวกัน โดยส่วนใหญ่มักออกเนื้อหาของ ม.4 และ ม.5 เป็นหลัก เรื่องที่ออกสอบเยอะ ได้แก่ สมดุลเคมี, การเกิดปฎิกิริยาเคมี โดยตัวอย่างข้อสอบ TBAT เคมี รอบล่าสุด ดังนี้

Which of the following organic compounds has the least number of hydrogen atoms in the formula ?

A) 3-ethyl-2-methylheptane

B) 4-ethyloct-2-yne

C) 3-ethyl-4,4-dimethylpent-2-ene

D) 2,3-dimethylheptane

E) 1-ethyl-2-methylcyclohexene

แนวข้อสอบ TBAT Biology

สำหรับวิชานี้ข้อสอบออกไม่ยากมากนัก เนื้อหาที่ออกสอบเยอะในรอบที่แล้วจะเป็นเนื้อหาช่วง ม.4 ซึ่งจะออกเกี่ยวกับ DNA RNA พันธุกรรม เยอะกว่าเรื่องอื่น ๆ

สถานที่สอบ TBAT

รายชื่อศูนย์สอบ TBAT

สนามสอบ TBAT มีจัดสอบเฉพาะในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยยังไม่มีการเปิดสอบในส่วนภูมิภาคหรือจังหวัดอื่น ๆ

การเตรียมตัวก่อนเดินทางไปสอบ TBAT

แนะนำให้น้อง ๆ วางแผนการเดินทางโดยเผื่อเวลาในการเดินทาง หรือเดินทางโดยขนส่งสาธารณะก็จะช่วยลดเวลาในการหาที่จอดรถไปได้ค่อนข้างเยอะ

สิ่งที่ต้องนำไปในวันสอบ TBAT

ในการสอบทุกครั้งผู้สมัครจะต้องนำบัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทางฉบับจริงที่มีสภาพสมบูรณ์ และยังไม่หมดอายุ แสดงต่อกรรมการคุมสอบก่อนเข้าห้องสอบ โดยหลักฐานที่นำมาแสดงในวันสอบจะต้องมีข้อมูลตรงกับที่ใช้ในการสมัครสอบทั้งหมด

เคล็ดลับสำหรับการสอบ TBAT

เทคนิคการทำข้อสอบ TBAT

แนะนำให้น้อง ๆ ฝึกทำข้อสอบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับข้อสอบ สังเกตข้อผิดพลาดที่เรามักผิดซ้ำ ๆ และแก้ไขพร้อมเพิ่มความรอบคอบในการทำข้อสอบ ก็จะช่วยฝึกเรื่องความแม่นยำได้ นอกจากที่ทักษะการตัดช้อยส์ก็มีความสำคัญเช่นกัน เพื่อช่วยให้เราทำข้อสอบได้เร็วขึ้น

การจัดการความกดดันในห้องสอบ TBAT

ความกดดันในห้องสอบมักเกิดขึ้นได้อยู่เสมอ แต่น้อง ๆ สามารถเตรียมความพร้อมและฝึกฝนไว้ก่อนที่จะลงสนามสอบจริงได้ นั่นคือ ทุกครั้งที่เราฝึกทำข้อสอบ ให้จับเวลาเท่ากับการสอบจริงด้วย เพื่อให้เราคุ้นชินกับสถานการณ์ที่ต้องมีการจับเวลาอยู่ตลอด นอกจากจะช่วยให้เรารู้ตัวตั้งแต่เนิ่นๆว่าเราทำข้อสอบช้าไปหรือไม่แล้ว ยังช่วยลดความกดดันต่าง ๆ ในวันสอบจริงด้วย เพราะเราคุ้นเคยกับการจับเวลาอยู่แล้วนั่นเอง

วิธีอ่านโจทย์และคำถาม TBAT อย่างมีประสิทธิภาพ

ก่อนอื่นน้อง ๆ จะต้องมีสมาธิกับการทำข้อสอบ เพราะการมีสมาธิที่ดีคือพื้นฐานที่จะช่วยให้การอ่านโจทย์ของน้อง ๆ นั้นรอบคอบมากขึ้น นอกจากนี้ยังต้องอาศัยการฝึกทำข้อสอบเยอะ ๆ เช่นเดียวกัน เพราะนอกจากจะฝึกการหาคำตอบแล้ว ยังสามารถฝึกการตีโจทย์ของเราได้ด้วยว่าคำถามแต่ละข้อต้องการให้เราหาสิ่งใดนั่นเอง

คำถามที่พบบ่อย TBAT

TBAT สอบวิชาอะไรบ้าง

การสอบ TBAT ประกอบไปด้วย 3 วิชา ได้แก่ ฟิสิกส์ จำนวน 30 ข้อ, เคมี จำนวน 55 ข้อ และชีววิทยา จำนวน 55

TBAT เป็นข้อสอบแบบไหน

ข้อสอบ TBAT มีลักษณะคำถามแบบปรนัย โดยผู้เข้าสอบจะต้องเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดจากตัวเลือกที่กำหนดให้ 4 ตัวเลือก

TBAT คะแนนเต็มเท่าไร

TBAT มีคะแนนเต็ม 2,400 คะแนน

เว็บไซต์ ช่อง youtube สำหรับเตรียมสอบ TBAT

เรียน TBAT ตัวต่อตัว